dune เต็มเรื่อง

dune เต็มเรื่อง

dune เต็มเรื่อง กองทัพนักชี้ให้เห็นของ Dune

dune เต็มเรื่อง นับว่ายิ่งกว่าทีมออลสตาร์ ขนมาทั้งรุ่นเล็กมากความสามารถและรุ่นใหญ่ชั้นตำช้านาน เริ่มต้นตั้งแต่ ทิโมธี ชาลาเมต์ จาก Call Me by Your Name, เซนเดยา จาก Spider-Man, เจสัน โมโมอา จาก Aquaman, อดีตสมัยนักมวยปล้ำชื่อเรื่องราว เดฟ บอทิสตา, ไปจนถึงนักบ่งชี้รุ่นใหญ่ สเตลแลน สการ์สการ์ด และนักบ่งชี้ดีกรีท็อปอีกหลากหลายคนที่จะมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมถ้าาพย์ครั้งนี้

เพิ่มเติมอีกความอลังการด้วยเสียงดนตรีประกอบจาก ฮานส์ ซิมเมอร์ นักทำดนตรีประสมคู่บุญของ คริสโตเฟอร์ โนแลน รับรองผลงานจากทั้ง Inception และ Interstellar ฮานส์คือคนแรกๆ ที่เดอนีชวนมามีส่วนเข้าร่วมกับ Dune ฮานส์ที่จับอกจับใจนิยายต้นฉบับมาตั้งแต่วัยรุ่นอยู่และรวมทั้งตอบรับเกือบทันที ในส่วนของดนตรีเจือก็นับว่าแปลกใหม่ ฮานส์ร่วมมือกับนักดนตรีคนอื่นสร้างเครื่องดนตรีชิ้นใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยต้นเหตุผลที่ว่า Dune เล่าเรื่องในภายภาคหน้า และในภายภาคหน้าเครื่องดนตรีทั้งเครื่องสาย เครื่องกระทบ หรือเครื่องเป่าก็น่าจะปรับปรุงไปมาก ฮานส์เลยมีความคิดว่าขาดไม่ได้ควรจะมีเครื่องดนตรีที่ต่างไปจากเดิม

นอกจากนั้น Paul จะได้เรียนรู้การเมืองการปกครองจากพ่อ และสกิลการต่อสู้จากทหารมือหนึ่งแล้ว เขายังได้สกิลแม่มด ตัวอย่างเช่น การคอนโทรลจิตใจคนอื่นๆ จากแม่อีกต่างหาก แต่อุปสรรคของเขาคือ เขามักจะฝันแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ถึงเพศหญิงชาว Freman (Zendaya จาก Spider-Man) โดยฝันนั้นเหมือนจะเป็นการมองเห็นอนาคตล่วงหน้า แล้วก็มีความเชื่อเรื่องกันว่า Paul คือ “ผู้ถูกคัดสรรค์” ที่จะมาแปลงจักรวาลนี้

ในเวลาเดียวกัน ก็มีตระกูล Harkonnen นำโดย Baron Vladimir Harkonnen

(Stellan Skarsgård จาก Thor) และหลานชาย Glossu Rabban (Dave Bautista จาก Guardians of the Galaxy) ที่ทรงอิทธิพล และมีโครงการจะยึดอำนาจและทำลายตระกูล Atreides อย่างถอนรากถอนโคน ครั้นว่า Reverend Mother Mohiam (Charlotte Rampling จาก 45 Years) แม่ใหญ่ของกลุ่มแม่มด Bene Gesserit จะมาขอให้ไว้ชีวิต Jessica และ Paul แล้วก็ตาม

ดื่มด่ำความสโลว์ไลฟ์ไปกับเสด็จพ่อวิลล์เนิร์ฟตามสไตล์ของ Denis Villeneuve dune เต็มเรื่อง  หนังของเขาจะไม่น่าจะใช่สไตล์หนังตลาดสักเท่าไร ด้วยเหตุผลดังกล่าว Dune จะไม่ได้มุ่งเน้นแอ็คชั่นไซไฟเหมือน Star Wars หรือ Star Trek

แต่เขาใช้ขณะสองชั่วโมงครึ่งนี้ ค่อย ๆ เล่าเรื่องเหมือนพาพวกเราอ่านหนังสือ ชนิดเก็บและซึมซับแทบทุกดีเทล ราวกับกำลังอ่านตัวหนังสือบรรยายทีละบรรทัด ๆ ส่งผลให้เราได้ take time

กับนักแสดงและสถานที่อย่างที่ควรจะเป็น และงานของเขาก็เหมือนงานศิลป์ ที่โดดเด่นด้วยงาน visual ที่ล้ำเลิศเหนือจินตนาการ, Itemion design ที่เล็กน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้, และ score ที่ทรงพลัง ซึ่งพวกเราจำเป็นที่จะต้องค่อย ๆ เสพและดื่มด่ำ แล้วพอพวกเราจมตรงเข้าไปแล้ว เราจะรับรู้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของ Dune เลยจริงซึ่ง Dune หยิบได้ผลงานที่คงลายเซ็นเฉพาะเจาะจงตัวของ Denis Villeneuve

เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเหตุการณ์ความขัดปะทะคารมตอนตระกูลอาทรีเดสและตระกูลฮาร์คอนเนน ที่ผู้กำกับคัดเลือกจะชูมุมมองการเมืองให้เด่นมากมายยิ่งกว่าเรื่องราวการต่อสู้ณ เวลาฝั่งตัวเอกและตัวร้าย การออกแบบงานสร้างสุดล้ำ งานเมกอัพคอสตูมที่ขนาดที่เล็กมากยิบทุกกระเบียดนิ้ว และงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่เข้ามาช่วยรังสรรค์โลกเหนือจินตนาการของ Frank Herbert ให้ออกมาสมจริงสูงที่สุด

 

ไปจนถึงงานรูปของ Greig Fraser ผู้กำกับรูปจากรูปยนตร์ Rogue One: A Star Wars Story (2016) และ The Batman (2022) ที่ถ่ายทอดทัศนียภาพสุดยิ่งใหญ่และงดงามของรูปยนตร์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

เสริมด้วยดนตรีเจือจากปลายปากกาของ Hans Zimmer ที่เคยร่วมงานกับ Denis Villeneuve มาแล้วใน Blade Runner 2049 ซึ่งช่วยผลักดันให้ภาพยนตร์อีพิกเพิ่มมากขึ้นไปกว่าเดิม

ช่วงเดียวกัน ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะเกิดการเล่าเรื่องที่ออกจะเนิบช้า แต่ Denis Villeneuve ก็ใช้ข้อดีของความเนิบช้าสำหรับเพื่อการพาผู้ดูไปทำความรู้จักกับส่วนประกอบต่างๆ ที่อยู่ด้านในจักรวาล Dune ทั้งความเป็นมาความเป็นมาของดาวอาร์ราคิสและชาวเฟรเมน ตำนานความเชื่อและศาสนาที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง ความสำคัญของทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดในจักรวาลอย่าง Spice กลุ่มผู้ใช้พลังจิตที่เรียกตัวเองว่า Bene Gesserit และความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิพาร์ดิชาที่เป็นตัวจุดชนวนสงครามทั้งสิ้น

กล่าวคือ Dune ภาคนี้ กำลังปฏิบัติหน้าที่ปูเบื้องต้นของจักรวาล Dune

ให้ผู้ชมได้ทำความรู้จัก พร้อมกับวางปมข้อขัดข้องสำคัญของเรื่องเอาไว้ เพื่อที่จะเตรียมการพาผู้ดูไปสู่เรื่องราวที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นในพาร์ตถัดไป ดังที่ Denis Villeneuve และกลุ่มสร้างคิดแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น

เนื้อหายุ่บยับของเนื้อเรื่องและความซับซ้อนของพล็อต นำมาซึ่งการทำให้การ dune เต็มเรื่อง สร้างและจัดทำขึ้น Dune เป็นภาพยนตร์ เย้ายวนผู้กำกับและเป็นหลุมพรางอันตรายไปพร้อมๆ กัน ความพยายามที่จะสร้าง Dune เป็นหนัง กำเนิดขึ้นในปี 1974

โดยผู้กำกับ อเลฮานโดร โจโดรอฟกี้ ศิลปินอะวองการ์ดที่ขึ้นชื่อจินตนาการอันพรึงเพริด โครงการของโจโดรอฟสกี้ช่างทะเยอทะยานและถึงขั้นบ้าคลั่ง เนื่องจากว่าเขาอยากทำอุปรากรแห่งอวกาศเรื่องนี้ให้ยาวถึง 12 ชั่วโมง ลงทุนมหาศาล และต้องการที่จะได้จิตรกรเซอเรียลลิสม์ ซัลวาดอร์ ดาลี มาทำให้ทราบเป็นจักรพรรดิ จนท้ายสุดแล้วความฝันอันมหึมานี้เกินเส้นความเป็นได้ จนต้องพับโครงการไป

ส่วนภาพยนตร์ Dune ที่สร้างเป็นผลเป็นหนังจริงๆ กำเนิดขึ้นในปี 1984 โดยเดวิด ลินช์ ผู้กำกับที่มีจินตนาการแปลกประหลาด ปรมาจารย์แห่งการนำฝันร้ายมาปั้นเป็นภาประสบนจอ แต่ Dune ของเดวิด ลินช์ เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่

โดนนักวิจารณ์ด่าเละเทะว่าหนังดูไม่เข้าใจ งานสร้างก็ไร้มูลค่าและราคา ส่วนคนชมก็ไม่สนับสนุน จนหนังเจ๊งไม่เป็นบุคลิกด้านเจสสิก้า เธอกำลังรับแม่บ้านเข้าปฏิบัติงาน เมื่อเธอเหน้าจอผู้คนที่จับจิตแล้ว เธอก็เลยให้คนอื่นออกไป หลังแล้วหลังจากนั้น

เธอสอบถามแม่บ้านคนใหม่ว่า เธอคือชาวเฟรเมนใช่บ้างมั๊ย และอาวุธที่เธอซ่อนไว้ ทำอะไรเธอมิได้หรอก แม่บ้านก็เลยหยิบมีดที่หลบไว้ออกมา และถามไถ่ว่า ท่านเคยชินมีดเล่มนี้หรือไม่ เจสสิกาตอบว่า มีดคริสไนฟ์ มันคือมีดของผู้สร้าง แม่บ้านก็เลยมอบมีดดังที่กล่าวถึงมาแล้วให้เจสสิก้า

ทางด้านพอล เค้ากำลังศึกษาเหตุการณ์ของดาวนี้ ซึ่งเค้ากำลังชมข้อมูลหนอนยักษ์ ที่มีความยาวได้ถึง 400 เมตร และเรื่องที่ชาวเฟรเมน เดินในรูปพรรณเต้นรำ เพื่อไม่ให้หนอนยักษ์หยิบแรงสั่นสะเทือนจากเท้าทายได้ ช่วงเวลาที่พอลดูเรื่องต้นไม้บนดาวดวงนี้ เค้าพินิจแสดงตัวหุ่นยนต์แมลงเข้ามาในห้อง พอลจึงจ้องมองด้วยความระมัดระวัง เมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามา แมลงพุ่งมาทางเค้า เค้าก็เลยจับแมลงทำลายได้

ทูเฟอร์หยิบผู้คนที่บังคับแมลงได้ และไปขอลาออกกับทางเลโต้ แต่เลโต้กล่าวว่า dune เต็มเรื่อง  ให้ทูเฟอร์ไปหาตัวสายลับมาให้ได้ เพื่อที่จะชดใช้ความไม่ถูกที่ลูกเค้าเกือบถูกฆ่าตายยิ่งไปกว่านั้นนี้หนังยังขายความอลังการ (Spectacular)

ของงานวิชวลได้อย่างประดิษฐ์และน่าจับจิตจับใจซึ่งแทนที่จะเอาComputerเนรมิตรมันเสียทั้งหมดทุกอย่าง แต่งานดีไซน์แบบจับจึงควรได้ (Practical) ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมไปยันการดีไซน์งานสร้างสุดวิจิตรพิศดารหลากวัฒนธรรม

คลุกเคล้าทั้งเสื้อผ้าแบบอาหรับ ชุด งานพิธีและสถาปัตยกรรมแบบอิสลามต่างถ้าที่ส่งผลให้ ‘Dune’ ฉบับนี้เต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และอาจเป็นต้นฉบับให้กำเนิดงานดีไซน์แบบพหุวัฒนธรรมต่อจากนี้ไปได้ไม่รู้จักจบสิ้น

และด้วยความชำนาญวิธีใช้งานวิชวลเล่าเรื่องอย่างช่ำชอง คราวกับนี้วิลล์เนิฟว์เฟ้นเอากล้อง อเล็กซาไอแมกซ์ (Alexa Imax) มาถ่ายทอดทั้งความเกี่ยวกับความเข้าใจของทะเลทรายและความวอดวายของสงครามเลยสนับสนุนให้งาน

รูปของหนังไปไกลกว่าแค่งานตีหัวเข้าบ้านจนส่งผลให้วลี “See It In IMAX” ไม่น่าเกินเลยสำหรับ ‘Dune’ แม้กระทั้งเล็กน้อย เนื่องมาจากมันไม่เพียงสร้างความใหญ่โตให้ภาประสบนจอแบบไม่มีความหมายแต่ยังสนับสนุนและขับเคลื่อนมุ่งเน้นพลังของงานรูปและเหตุการณ์ได้ทรงพลังมาก ๆ

โปรโมชั่น

สมัครใหม่ฝาก 300 รับ 400 บาท ฝาก 500 รับ 700 บาทTurn Over 5 เท่า

โปรย้ายค่าย รับโบนัส 100% ของยอดฝาก

ฝากแรกของวัน รับโบนัส 5% สูงสุด 1,000 บาท Turn over 10 เท่า

เพื่อนฝากครั้งแรกรับ 20% สูงสุด 300 บาท

คืนยอดเสีย 4.8% สูงสุด 7,000 บาท

สอบถามข้อมูล ได้ที่ Line @viewbet369

 

 

argentinaelecciones